กรุสำหรับ ตุลาคม 20, 2010

โครงงานวิทยาศาสตร์  เรื่อง เปลือกผลไม้ลบคำผิด

ที่ปรึกษาโครงงาน   :   อาจารย์สมชาย  พรมขุนทอง

จัดทำโดย  :   นายสถาพร    รัตนศิลา

                  นางสาวนิภาวรรณ   ปรีชา

                 นางสาวณัฐณิชา   แซ่หลิ่ม

                 นางสาวภัทรียา    วงศ์สุวัฒน์

บทคัดย่อ     

โครงงานวิทยาศาสตร์เรื่อง “เปลือกผลไม้ลบคำผิด” สามารถลบรอยคำผิดที่ติดอยู่ตามโต๊ะเรียน เก้าอี้ หรือพื้นให้สะอาดได้ โดยการใช้เปลือกผลไม้ ได้แก่ เปลือกมะกรูด เปลือกมะนาว เปลือกส้มโอ เปลือกส้มเขียวหวาน มาถูบริเวณที่มีรอยน้ำยาลบคำผิด ผลปรากฏว่ารอยน้ำยาลบคำผิดสามารถหลุดออกไป ทำให้บริเวณนั้นสะอาดขึ้น และยังเป็นการประหยัดและปลอดภัยต่อผู้ใช้อีกด้วย

กิตติกรรมประกาศ

        โครงงานนี้สำเร็จลุล่วงด้วยดี ขอขอบคุณ คุณครูรัฐพงษ์ พงศาปาน ที่ให้คำแนะนำให้คำปรึกษาและให้ความรู้เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์และการทำโครงงานขอขอบคุณผู้อำนวยการสถานศึกษา ที่ให้การช่วยเหลือและเสนอแนะให้ความรู้เกี่ยวกับการจัดแสดงโครงงาน ให้ความอนุเคราะห์วัสดุอุปกรณ์วิทยาศาสตร์และอุปกรณ์ที่ใช้ในการทดลอง ตลอดจนวัสดุที่ใช้ในการจัดแสดง ขอขอบคุณผู้ที่ให้ความรู้ที่ได้จากการทำโครงงานนี้ไปเผยแพร่เพื่อประโยชน์ให้กับการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ ตลอดจนขอขอบคุณบิดา มารดาและเพื่อนร่วมงานที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี บทที่ 1

บทนำ

ที่มาและความสำคัญ

ในเขตชุมชนที่เราอาศัยอยู่นั้น มีการปลูกสวนมะนาวกันมาก เมื่อใช้ผลของมะนาวก็จะต้องปอกเปลือกออก เปลือกมะนาวที่เหลือไม่สามารถใช้ประโยชน์อะไรได้ คณะผู้จัดทำจึงได้ลองนำเปลือกมาบีบเอายางที่อยู่ในเปลือกผลมะนาว แล้วนำมาเช็ดรอยน้ำยาลบคำผิดที่ติดอยู่บนโต๊ะ ปรากฏว่าสามารถลบรอยน้ำยาลบคำผิดนั้นได้ และได้ลองทดสอบกับเปลือกผลไม้ชนิดอื่นๆ ได้แก่ ส้มโอ มะกรูด ส้มเขียวหวาน ปรากฏว่าสามารถลบรอยน้ำยาลบคำผิดนั้นได้

จุดมุ่งหมายของการศึกษาค้นคว้า

1. เพื่อศึกษาการนำเปลือกผลไม้มาใช้ในการลบรอยน้ำยาลบคำผิดบนโต๊ะ

2. เพื่อนำของเหลือใช้มาใช้ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด

3. เพื่อนำกระบวนการทางวิทยาศาสตร์มาประยุกต์ใช้งาน ให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและส่วนรวม

4. เพื่อส่งเสริมความคิดริเริ่มสร้างสรรค์เพื่อฝึกฝนตนเองให้เป็นนักวิทยาศาสตร์

ขอบเขตของการศึกษาค้นคว้า

นำเปลือกผลไม้มาทดลอง 4 ชนิด ได้แก่ เปลือกมะกรูด ส้มเขียวหวาน มะนาว

และส้มโอ โดยการถูรอยน้ำยาลบคำผิด ( ลิควิดเปเปอร์ : liquid paper ) ที่ติดตาม

โต๊ะเรียน เก้าอี้ แผ่นไม้ เปรียบเทียบความสามารถในการหลุดลอกของน้ำยาลบคำผิดลิควิดเปเป้อร์ ( ลิควิดเปเปอร์ : liquid paper )

สถานที่ศึกษา

ที่บ้าน และ ที่ร.ร. สวีวิทยา

   ี

บทที่ 2

เอกสารและทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง

1. มะกรูด

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Citrus hystrix DC.

ชื่อวงศ์ : RUTACEAE

ชื่อสามัญ : Leech Lime, Mauritius Papeda, Kaffir Lime, Porcupine Orange

ชื่อท้องถิ่น

• ภาคเหนือ เรียก มะขูด, มะขุน

• ภาคใต้ เรียก ส้มกรูด, ส้มมั่วผี

• เขมร เรียก โกร้ยเขียด

• กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน เรียก มะขู

ลักษณะทั่วไป มะกรูดเป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็ก แตกกิ่งก้าน ลำต้นและกิ่งมีหนามแข็ง ใบ เป็นใบประกอบที่มีใบย่อยใบเดียว สีเขียวหนา มีลักษณะคอดกิ่วที่กลางใบเป็นตอนๆ มีก้านแผ่ออกใหญ่เท่ากับแผ่นใบ ทำให้เห็นใบเป็น 2 ตอน ใบสีเขียวแก่ค่อนข้างหนา มีกลิ่นหอมมากเพราะมีต่อมน้ำมันอยู่ ดอกออกเป็นกระจุก 3 – 5 ดอก กลีบดอกสีขาว ร่วงง่าย ผล มีหลายแบบแล้วแต่พันธุ์ผลเล็กเท่ามะนาว ผิวขรุขระน้อยกว่าและไม่มีจุกที่หัวการปลูก มะกรูดปลูกได้ดีในดินทุกชนิด ขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ด

สรรพคุณทางยา

• ผิวผลสดและผลแห้ง รสปร่า หอมร้อน สรรพคุณแก้ลมหน้ามืด แก้วิงเวียน บำรุงหัวใจ ขับลมลำไส้ ขับระดู

• ผล รสเปรี้ยว มีสรรพคุณเป็นยาขับเสมหะ แก้ไอ แก้น้ำลายเหนียว ฟอกโลหิต ใช้สระผมทำให้ผมดกดำ ขจัดรังแค

• ราก รสเย็นจืด แก้พิษฝีภายใน แก้เสมหะ แก้ลมจุกเสียด

• น้ำมะกรูด รสเปรี้ยว กัดเสมหะ ใช้ดองยามีสรรพคุณเป็นยาฟอกโลหิตสำหรับสตรี

• ใบ รสปร่าหอม แก้ไอ แก้อาเจียนเป็นโลหิต แก้ช้ำใน และดับกลิ่นคาว

คติความเชื่อ มะกรูดเป็นไม้มงคลชนิดหนึ่งที่ควรปลูกไว้ในบริเวณบ้าน โดยกำหนดปลูกทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ (พายัพ) เพื่อผู้อยู่อาศัยจะได้มีความสุข และในบางตำราว่าเป็นความเชื่อของคนบ้านป่า ที่เดินทางด้วยเกวียนเทียม โคหรือกระบือเมื่อได้กลิ่นสาบเสือจะหยุดเดิน เจ้าของจะต้องขูดผิวมะนาวหรือมะกรูด ป้ายจมูกให้ดับกลิ่นสาบเสือก่อน โค กระบือจึงจะเดินต่อไป ดังนั้นการเดินทางสมัยก่อนผ่านป่า ผู้เดินทางจึงมักจะพกพามะนาวและมะกรูดติดตัวไปด้วยเสมอ ในพิธีกรรมการทำน้ำมนต์เพื่อสะเดาะเคราะห์สำหรับพรมหรืออาบผู้ป่วยใบมะกรูดเป็นส่วนประกอบสำคัญที่จะขาดไม่ได้ โดยใช้ร่วมกับใบส้มป่อย ใบเงินใบทอง ใบมะตูม หญ้าแพรก หมากผู้หมากเมีย ใบราชพฤกษ์ เชื่อกันว่าใบจากต้นไม้มงคลเหล่านี้จะช่วยปัดเป่าและบรรเทาเคราะห์โศกลงไปได้

2. มะนาว : Lime



ชื่อวิทยาศาสตร์ : Citrus aurantifolia

วงศ์ : Rutaceae

เริ่มแรกจากแถบเอเชีย พื้นที่ที่มีการเพาะปลูกส่วนมากเป็นเขตอบอุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศอิตาลี, บริเวณ แถบเอเชียตอนใต้และอเมริกา มะนาวเป็นไม้ยืนต้นสูงประมาณ 4.5 เมตร (15 ฟิต) ใบเรียบสีเขียว มีหนามแหลมคม และเล็ก มีดอกสีขาว มะนาวมีผลสีเขียวและมีหลายชนิด เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 2 นิ้ว มะนาวถูกนำมาเผยแพร่ในทวีปยุโรป โดยมัวร์ และได้กระจายไปถึงประเทศอเมริกา น้ำมะนาวช่วยป้องกันโรคลักปิดลักเปิด เนื่องจากน้ำ มะนาวมีวิตามินซีสูง ส่วนใหญ่ใช้แต่งกลิ่นและรสชาติ ในเครื่องดื่มอัลกอฮอล์และโคลา รวมถึงใช้ในอุตสาหกรรม น้ำหอม

ส่วนที่ใช้ : ผิว

กลิ่น : สดชื่น, หวาน

อารมณ์ : สดชื่นกระปรี้กระเปร่า

ส่วนประกอบทางเคมี : citral, limonene, glutathione, terpineol, cymene, myrcene, a-pinene, B-pinene, sabinene, myrcene, limonene, y-terpinene, terpinolene, octanal, nonanal, tetradecanal, pentadecanal, trans-a-bergaptene, caryophyllene, B-bisabolene, geranial, neryl acetate, geranyl acetate, a-terpineo, linalool.

คุณสมบัติ : บยั้งเลือดออกตามไรฟัน, ยับยั้งเชื้อจุลินทรีย์และเชื้อไวรัส, ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย, ลดไข้, ซ่อมแซมและฟื้นฟูพละกำลัง

สรรพคุณ

ระบบทางเดินหายใจ : บรรเทาอาการเจ็บคอ, ช่วยลดอาการของไข้หวัด, อาการไอ

ระบบทางเดินอาหาร : กระตุ้นความอยากอาหาร, ช่วยย่อยอาหาร,

กล้ามเนื้อ / ข้อต่อ : บรรเทาอาการข้ออักเสบ

ผิวหนัง : สิว, ช่วยกระชับรูขุมขนสำหรับผิวมัน, ลดไขมันใต้ผิวหนัง, โรคผิวหนังเป็นเม็ดพุพองและลามออก

ระบบการหมุนเวียนโลหิต : บรรเทาอาการเส้นโลหิตดำโป่ง, เลือดคั่ง

ข้อพึงระวัง :

– หลังจากใช้แล้วห้ามถูกแสงแดดโดยตรง

3. ส้มโอ : Pomelo or Grapefruit

ชื่อวิทยาศาสตร์ : VCitrus maxima var. racemosa

วงศ์ : Rutaceae

ส้มโอ เป็นพืชตระกูลเดียวกับมะนาว ส้ม และมีวิตามินซีสูง ซึ่งป้องกันการติดเชื้อ ใช้ในการบำบัดต่างๆ เช่น สิว รอยแผลเป็น ช่วยปรับสภาพผิว เหมาะกับผิวมัน กระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผม นอกจากนี้ยังช่วยในการ ลดไขมันใต้ผิวหนัง และผ่อนคลายกล้ามเนื้อ น้ำมันหอมระเหยจากส้มโอ ใช้เป็นส่วนประกอบในการทำสบู่ เครื่องสำอาง น้ำหอม และใช้ในการทำขนม เครื่องดื่มจำพวกแอลกอฮอล์ ทั้งให้ความหอมและเป็นการเพิ่มรสชาติ

ส่วนที่ใช้ : ราก

กลิ่น : ไอดิน และรากไม้

อารมณ์ : อบอุ่น

ส่วนประกอบทางเคมี : benzoic acid, vetiverol, furfurol, -vitivone, -etivone, vetivone vetivenyl vetivenate.

คุณสมบัติ : ยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย และเชื้อรา ฆ่าเชื้อโรค ผ่อนคลายความเครียด

สรรพคุณ

ระบบกล้ามเนื้อ / ข้อต่อ : บรรเทาอาการข้อต่ออักเสบ

จิตใจ / อารมณ์ : บรรเทาอาการอ่อนเพลีย ช่วยให้นอนหลับง่าย ผ่อนคลายความตึงเครียด

ผิวหนัง : สิว ริ้วรอยที่เกิดจากวัย

ข้อพึงระวัง :

ไม่เป็นพิษ เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวบอบบางและแพ้ง่าย

4. ส้มเขียวหวาน

ส้มเขียวหวาน (Tangerine ) ชื่อวิทยาศาสตร์ Citrus reticulata Family: Rutaceae

ความสำคัญ

ส้มเขียวหวานเป็นไม้ผลกึ่งเมืองร้อนมีถิ่นกำเนิด แบ่งออกได้เป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ ส้ม Satsuma mandarins มีถิ่นกำเนิดอยู่ในญี่ปุ่น ส้ม King mandarins มีถิ่นกำเนิดในจีน ส้ม Mediterranean mandarins มีถิ่นกำเนิดในอิตาลี และส้ม Common mandarins มีถิ่นกำเนิดในฟิลิปปินส์ ส้มมีทรงพุ่มขนาดเล็ก ต้นสูงประมาณ 2.5 -3 เมตร ปลูกได้ดีในดิน ทุกภาคของประเทศไทย ดินควรมีสภาพเป็นกรด – ด่าง ประมาณ 5.7-6.9 ส้มเขียวหวานเป็นไม้ผลที่คนไทยนิยมบริโภคทั่วไป ในปี พ . ศ . 2541 มีพื้นที่ปลูกประมาณ 185,000 ไร่ เป็นพื้นที่ที่ให้ผลผลิตแล้ว 101,000 ไร่ ผลผลิตรวมประมาณ 283,000 ตัน / ปี ส่วนใหญ่จะผลิตขึ้นเพื่อบริโภคภายในประเทศ แต่ก็สามารถส่งออกไปจำหน่ายยังต่างประเทศปีละหลายสิบล้านบาท ปริมาณและมูลค่าการส่งออกมีดังนี้คือ ผลสด 154 ตัน มูลค่า 2.7 ล้านบาท น้ำส้มทุกชนิด 3.6 ตัน มูลค่า 33 ล้านบาท

ชนิดของกรด

สารที่เป็นกรดแบ่งออกได้ 2 ประเภท ดังนี้

1. กรดที่ได้จากพืช

2. กรดที่ได้จากแร่ธาตุ

กรดที่ได้จากพืช

จัดเป็นกรดอินทรีย์ซึ่งจะเกิดจากพืชโดยตรง เช่น น้ำส้มคั้น น้ำมะนาว น้ำมะกรูด น้ำผลไม้ และกรดบางชนิดได้จากพืชโดยทางอ้อมซึ่งเกิดจากการหมักพืช เช่น น้ำส้มสายชู เป็นกรดชนิดที่ได้จากธรรมชาติ จึงนำมาบริโภคได้โดยไม่เกิดอันตราย ปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์สามารถสังเคราะห์กรดประเภทนี้จากแร่ธาตุได้ โดยมีสมบัติเช่นเดียวกับที่ผลิตได้จากพืช แต่นำมาบริโภคมากไม่ได้ เพราะจะเกิดอันตรายต่อร่างกาย

กรดอินทรีย์ที่สำคัญได้แก่

1. กรดฟอร์มิก หรือกรดมด เตรียมครั้งแรกโดยนำมดมากลั่น มีสถานะเป็นของเหลว กลิ่นฉุน สัมผัสกับ ผิวหนังจะคันและบวม อาการคันหรือบวม เมื่อถูกมดกัดก็เพราะกรดฟอร์มิกนี้เอง กรดฟอร์มิกใช้ในอุตสาหกรรมย้อมหนัง ย้อมผ้า

2. กรดอะเซติก หรือกรดน้ำส้ม เป็นกรดที่มีความสำคัญในอุตสาหกรรม ใช้เป็นตัวทำละลาย ใช้ในอุตสาหกรรมสิ่งทอและยางสังเคราะห์ ใช้ทำน้ำส้มสายชู โดยนำกรดอะเซติกบริสุทธิ์มาเจือจางเหลือความเข้มข้นประมาณ 4.5 % ใช้ในอุตสาหกรรมทำตะกั่วขาว

3. กรดออกซาลิก เตรียมจากการใช้ขี้เลื่อยเผากับโซเดียมไฮดรอกไซด์กรดนี้เป็นของแข็งเป็นพิษ มีประโยชน์ใช้กำจัดสนิมและ รอยเปื้อน หมึกบนผ้าขาวใช้ฟอกสีลินินและฟางข้าวและใช้ขัดทองเหลือง ทองแดง

สมบัติของกรดที่ได้จากพืช

ก. เมื่อทดสอบด้วยเจนเซียนไวโอเลตที่มีสีม่วงจะไม่เปลี่ยนสีของเจนเซียน

ไวโอเลต(น้ำยาป้ายลิ้นสีม่วง)

ข. ส่วนใหญ่มีสมบัติเป็นกรดอ่อน มีฤทธิ์กัดกร่อนน้อย

ค. เป็นกรดที่ใช้ในการปรุงอาหารแต่งรสอาหารหรือเครื่องดื่มได้

บทที่ 3

อุปกรณ์และวิธีการทดลอง

อุปกรณ์ที่ใช้ในการทดลอง

1. เปลือกผลไม้ ( มะกรูด , มะนาว , ส้มโอ , ส้มเขียวหวาน )

2. มีดปอกผลไม้

3. แผ่นไม้

4. น้ำยาลบคำผิด ( ลิควิดเปเปอร์ liquid paper )

วิธีการทดลอง

1. นำแผ่นไม้มาแบ่งพื้นที่ทดลอง 4 ส่วน

2. นำน้ำยาลบคำผิด ( ลิควิดเปเปอร์ liquid paper ) มาขีดเขียนให้เท่าๆกัน

3. หั่นเปลือกผลไม้ทั้ง 4 ชนิดในปริมาณที่เท่าๆกัน

4. นำเปลือกผลไม้ทั้ง 4 ชนิด มาถูบริเวณที่ติดน้ำยาลบคำผิด

5. เปรียบเทียบว่าเปลือกผลไม้ชนิดใดสามารถลบรอยน้ำยาลบคำผิดได้ดี

บทที่ 4

ผลการทดลอง

ชนิดเปลือกผลไม้ ความสามารถในการลบคำผิด

1. เปลือกมะกรูด ดีที่สุด

2. เปลือกส้มโอ ดี

3. เปลือกมะนาว ปานกลาง

4. เปลือกส้มเขียวหวาน พอใช้

บทที่ 5

สรุปและอภิปรายผลการทดลอง

เปลือกผลไม้สามารถลบรอยน้ำยาลบคำผิดที่ติดอยู่ตามโต๊ะหรือพื้นได้ โดยพบว่าเปลือกมะกรูดมีความสามารถในการลบคำผิดได้ดีที่สุด รองลงมา เปลือกส้มโอ เปลือกมะนาว เปลือกส้มเขียวหวาน ตามลำดับ

ประโยชน์

1. ทำให้โต๊ะหรือพื้นที่ติดรอยน้ำยาลบคำผิดหลุดออกและสะอาดขึ้น

2. ประหยัดค่าใช้จ่ายโดยไม่ต้องไปซื้อสารเคมีมาลบรอยน้ำยาลบคำผิด

3. เป็นการรักษาพื้นโต๊ะหรือเก้าอี้ไม่ให้เป็นรอย

4. ปลอดภัยแก่ผู้ใช้ เพราะเปลือกผลไม้ได้จากธรรมชาติ

ข้อเสนอแนะ

1. ลองทดสอบเปลือกผลไม้ชนิดต่างๆในการลบรอยน้ำยาลบคำผิด

2. ทำการศึกษาสารเคมีในเปลือกผลไม้ว่ามีผลต่อการลบคำผิดอย่างไร

บรรณานุกรม

http://www.panmai.com/Direction/Tree_NW_2.shtml

http://www.nco-project.com/herbal.html#tangerin